เป็นการตั้งโปรแกรมสำหรับสถานีที่ใช้งานแบบต่อสัญญาณเสียงทางอินเตอร์เน็ตกับวิทยุรับส่งโดยท่านสามารถตั้งค่าของ
RX Control, TX Control, DTMF, Identification, Options หรือ Web
options
ซึ่งมีวิธีการปรับแต่งดังต่อไปนี้
RX Control Tab
ใช้สำหรับการตั้งระบบให้ทำงานกับระบบอินเตอร์เฟสระหว่างคอมพิวเตอร์กับวิทยุรับส่งที่ท่านใช้
Carrier Detect:
ใช้เพื่อตั้งให้
Echolink
ตรวจจับสัญญาณเสียงที่รับมาจากเครื่องรับส่งวิทยุซึ่งโดยปรกติ
VOX ของ Echolink
จะคอยตรวจสอบสัญญาณเสียงอยู่ตลอดเวลาหากมีสัญญาณเสียงแรงพอก็จะกระตุ้นให้ระบบ
VOX ของ Echolink
ทำงานและส่งสัญญาณเสียงไปทางอินเตอร์เน็ตทันทีแต่ถ้าหากวิทยุรับส่งของท่านมีช่องสำหรับต่อ
carrier-detect
แล้วหล่ะก็ท่านสามารถนำมาใช้ทำงานแทนระบบ
VOX
ได้ทันทีซึ่งจะทำให้การนำสัญญาณที่รับมาได้ส่งไปทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างถูกต้องมากกว่าอีกด้วย
Manual:
ใช้เมื่อท่านต้องการส่งสัญญาณเสียงไปสู่คู่สนทนาโดยการกดปุ่ม
Space Bar
VOX: ใช้เมื่อท่านต้องการให้
Echolink
คอยตรวจสอบระดับความดังของสัญญาณเสียงที่มาจากเครื่องรับส่งที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์หากมีความดังมากพอก็จะส่งสัญญาณเสียงนั้นไปทางอินเตอร์เน็ตทันที
VOX Delay:
ใช้เพื่อกำหนดระยะเวลาหน่วงให้
Echolink
ยังคงส่งสัญญาณไปทางอินเตอร์เน็ตค้างต่อไปอีกหลังจากสัญญาณเสียงสิ้นสุด
Anti-Thump: ในขณะที่ท่านกำลังใช้
VOX
ท่านสามารถป้องกันเสียงสั้นๆ
ที่สามารถทำให้ VOX
ทำงานเช่นเสีglเสียงสะท้อนของระบบของรีพีทเตอร์ที่มีสัญญาณเสียงตรงช่วงปล่อยคีซึ่งเป็นเสียงสั้นๆ
แต่ก็มากพอที่จะทำให้ VOX
ทำงานได้ถ้าท่านตั้งค่าตรงนี้เหมาะสมสัญญาณเสียงสะท้อนท่อนหางของรีพีทเตอร์ก็จะไม่สามารถทำให้
VOX ทำงานได้
Serial CD, Serial CTS, and Serial DSR: เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะตั้งให้เป็นระบบ
VOX
ถ้าหากวิทยุรับส่งของท่านมีฟังก์ชันของ
carrier-dectect
เนื่องจากว่าระบบนี้สามารถติดตามสัญญาณที่จะนำมากดคีได้ดีกว่าที่จะนำเอาสัญญาณเสียงมากดคีส่งที่มีข้อเสียในเรื่องของการหน่วงเวลา
และถ้าหากว่าได้ทำเครื่องหมายถูกเลือก
Invert Sense สัญญาณที่นำมากดคีส่งก็จะเป็นผลตรงกันข้ามระหว่างการรับหรือส่ง
Squelch Crash Anti-Trip: เป็นฟังก์ชันพิเศษเหมาะมากสำหรับการติดต่อระหว่างรีพีทเตอร์กับรีพีทเตอร์ผ่าน
Echolink ทำงานร่วมกับ VOX
ในกรณีที่ท่านนำคอมพิวเตอร์ต่อกับวิทยุรับส่งที่เป็นรีพีทเตอร์ซึ่งบ่อยครั้งที่ท่านจะได้ยินหางเสียงสั้นๆหลังจบข้อความและปล่อยปุ่มคีส่ง
หากท่านได้ทำการตั้งค่าได้เหมาะสมแล้วหางเสียงตรงนั้นก็จะไม่เข้าไปรบกวนในระบบ
Echolink
ซึ่งมีหน่วยเป็นมิลลิวินาที
TX Control Tab
เป็นการตั้งโปรแกรมเลือกประเภทของอินเตอร์เฟสที่ท่านใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านกับวิทยุรับส่ง
PTT Activation: เป็นการกำหนดว่าจะให้
Echolink
กดคีส่งเครื่องวิทยุรับส่งที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ท่านอย่างไรเมื่อได้รับสัญญาณเสียงมาทางอินเตอร์เน็ต
External VOX: เป็นการทำงานที่ง่ายที่สุดที่ท่านจะนำเอาวิทยุรับส่งมาต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านเพราะไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อินเตอร์เฟสใดๆมาเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านกับวิทยุรับส่ง
การทำงานก็อาศัยสัญญาณเสียงที่ได้รับมาทางอินเตอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้นให้เครื่องรับส่งวิทยุของท่าน
(ซึ่งจะต้องมีระบบ VOX
ในตัวด้วย)
ส่งสัญญาณเสียงสู่คลื่นวิทยุแต่ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพต่ำแบบนี้จะต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแบบมีอุปกรณ์อินเตอร์เฟส
ASCII Serial:
ให้เลือกปุ่มนี้เมื่อท่านมีอินเตอร์เฟสแบบ
WB2REM/G4CDY หรือ VA3TO
หรือลักษณะแบบเดียวกับ
homebrew
โดยมีการทำงานที่ถูกออกแบบมาให้รับคำสั่ง
ASCII
ที่มาจากซีเรียบพอร์ท
ความเร็วที่ได้ถูกตั้งไว้เดิมคือ
2400 bps
ทำเครื่องหมายถูกที่ 9600
bps
ถ้าหากท่านใช้อินเตอร์เฟสแบบเดิม
RTS and DTR:
เลือกอินเฟสแบบนี้หากท่านใช้อินเตอร์เฟสแบบ
RIGblaster
หรือลักษณะแบบเดียวกันซึ่งประเภทนี้จะกดคีส่งให้กับเครื่องรับส่งโดยผ่านขา
RTS หรือ DTR
Key PTT on Local Transmit: เป็นฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับสถานีที่เป็นผู้ใช้งานประเภท
L หรือ R
ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงของท่านเองไปทางอินเตอร์เน็ตพร้อมๆ
กับส่งออกทางคลื่นวิทยุที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ของท่านเองเพื่อให้สถานีที่ใช้วิทยุรับส่งในบริเวณเดียวกับท่านได้ยินเสียงของท่านด้วย
Note: บางซาว์ดการ์ดเท่านั้นที่รองรับการทำงานแบบนี้ได้
Recording Volume Control: หากท่านเลือกทำเครื่องหมายถูกที่
Key PTT on Local Transmit
ท่านต้องเลือกให้ทั้งไมโครโฟนและ
line in
ทำงานแล้วตั้งโวลลุ่มทั้งสองเอาไว้ตรงกึ่งกลางในขณะที่เหลือให้เลือก
Mute เอาไว้ทั้งหมด
Playback Volume Control: ให้ท่านเลือกทั้ง
Wave Output และ Microphoneถ้าจำเป็นอาจจะต้องปิดโวลลุ่มเสียงของ
PC speakers
เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณเสียงย้อนกลับ
Caution: การเลือกแบบการตั้งโปรแกรมอย่างนี้ให้ระวังไว้ว่าไมโครโฟนของท่านกำลังทำงานอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าสถานีปลายทางกำลังส่งสัญญาณเสียงผ่านอินเตอร์เน็ตมาที่ท่านถ้าหากไม่ใช้ก็ให้ปิดโวลลุ่มหรือถอดไมโครโฟนออกซะด้วย
DTMF Tab
DTMF ใน Echolink
ทำหน้าที่ได้หลายอย่างเช่น
ใช้ติดต่อหรือยกเลิกการติดต่อกับสถานอื่นซึ่งจะมีรายชื่อของฟังก์ชันต่างๆ
ปรากฏอยู่ใน แท็บ DTMF ของ Sysop
Setup
DTMF Decoder:
ให้เลือกหนึ่งในสามออชั่นในการที่ท่านจะใช้ระบบนี้คือ
External: ใช้ในกรณีที่ท่านใช้อินเตอร์เฟสของ
WB2REM หรือ VA3TO
ซึ่งในอุปกรณ์อินเตอร์เฟสแบบนี้มีระบบ
DTMF
ที่จะติดต่อกับซีเรียลพอร์ทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Internal: ในโปรแกรม Echolink
มีระบบ VOX
ในตัวอยู่แล้วหากท่านใช้อินเตอร์เฟสแบบ
RIGblaster หรือแบบอื่นๆ
ที่ไม่มีระบบ DTMF
มาให้ก็ให้เลือก Internal
Disables: ถ้าหากไม่ประสงค์ที่จะใช้ระบบ
DTMF ก็ให้เลือกปุ่มนี้
Min InterdigitTime:
เป็นการตั้งค่ากำหนดเวลาต่ำสุดเป็นมิลลิวินาทีระยะระหว่างสัญญาณ
DTMF ตั้งค่าให้เป็น 0
ถ้าหากต้องการให้ตั้งค่าตามผู้เขียนโปรแกรมกำหนด
หรือตั้งค่าให้สูงขึ้นเช่น
200 หรือ 500 ms
หากว่ามีสัญญาณรบกวนที่ทำให้การแปรสัญญาณดิจิทเดียวของ
DTMF
ถูกแปรผิดพลาดกลายเป็นหลายดิจิท
Log All Commands: เป็นการตั้งให้โปรแกรม
Echolink
บันทึกประวัติการรับสัญญาณ
DTMF
Auto Mute:
DTMF
จะไม่สามารถผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้หากท่านเลือกให้ฟังก์ชั่นนี้ทำงาน
และ DTMF
จะถูกตัดออกโดยสิ้นเชิงถ้าหากว่าท่านเลือกให้
DTMF ทำงานโดยใช้ Internal decoder
และอาจจะมี DTMF
บางส่วนลอดผ่านได้หากท่านใช้
DTMF แบบ External decoder
Disable During PTT: สัญญาณ DTMF
จะไม่ถูกแปลงไปเป็นคำสั่งใช้งานใดๆ
ในระหว่างที่เครื่องรับส่งกำลังกดคี
ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการตั้งซาว์ดการ์ดให้ป้อนสัญญาณไปยัง
Internal decoder หรือ external decoder
ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้
DTMF
อาจจะทำงานขึ้นมาเมื่อมี
DTMF
หลุดมาทางอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการ
Enable Remote Pad: ถ้าหากสถานีที่กำลังติดต่อกับท่านใช้
Echolink รุ่น 1.6
หรือสูงกว่านี้
สถานีนั้นสามารถที่จะส่งคำสั่ง
DTMF
มาที่สถานีลิงค์ของท่านได้โดยใช้โปรแกรมของแป้นส่งสัญญาณ
DTMF
ให้เลือกใช้ฟังก์ชันนี้ได้หากว่าท่านประสงค์ที่ส่ง
DTMF
ไปควบคุมสถานีรีพีทเตอร์ที่ใช้
DTMF เป็นตัวควบคุม
โดยปรกติแล้วระบบ Decoder
สัญญาณ DTMF ของ Echolink
จะไม่ตอบรับสัญญาณจากอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตามก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่มีการตั้งให้สัญญาณจากเอาท์พุทของซาวด์การ์ดสามารถป้อนกลับไปยังอินพุทได้หรือส่งไปยังระบบ
External DTMF decoder
Advanced: เมื่อใช้ระบบ DTMF
จากโปรแกรม Echolink เอง
ให้กดปุ่มนี้เพื่อปรับแต่ง
frequency tolerance, twist
และปรับอัตราส่วนระหว่างสัญญาณ
DTMF กับสัญญาณรบกวน
เพื่อให้โปรแกรมแปลความหมายของสัญญาณ
DTMF ได้ถูกต้อง
DTMF Command List: เป็นรายชื่อคำสั่งของระบบ
DTMF
และเครื่องหมายที่ใช้สั่งให้ระบบ
DTMF
ทำงานโดยท่านเองก็สามารถเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายของคำสั่งที่กำหนดให้
DTMF
ทำงานตามนั้นหากไม่ต้องการให้คำสั่งใดๆทำงานก็ให้เว้นช่อง
Sequence ในคำสั่งนั้นๆ ไว้
ให้จำไว้ว่าเกือบทุกๆ
คำสั่งจำเป็นต้องมีเครื่องหมาย
#
แต่ไม่ได้แสดงเอาไว้เว้นเสียแต่ว่าเป็นคำสั่งที่ต้องใช้เครื่องหมาย
# เป็นตัวสั่งให้ทำงาน
Reset to Defaults: ใช้สำหรับเปลี่ยนคำสั่งทั้งหมดให้เหมือนเดิมตามที่ผู้เขียนโปรแกรมได้ตั้งมา